รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
ประธานกรรมการ
นายชัชพล ประสพโชค
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ
25 ปี UAC ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน
25 ปี UAC ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน

“บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด - พลังงานทดแทน รวมถึงศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และร่วมลงทุนกับพันธมิตรในระดับชั้นนำ เพื่อยกระดับองค์กร ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) ตามหลักการวางรากฐานความยั่งยืน (Sustainability) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทได้ในระยะยาว ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักในการเป็นผู้นำธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตามแผนนโยบายที่วางไว้”

ตลอด 28 ปี กลุ่ม UAC มีการปรับตัวและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางวิกฤต และกระแสโลกาภิวัตน์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยในปี 2566 เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังมีแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรปและตะวันออกกลาง กลุ่ม UAC จึงให้ความสำคัญในด้านการรักษาสภาพคล่องและกระแสเงินสดให้อยู่ระดับที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจในอนาคต ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ด้านการพัฒนาบุคลากรและการนำเทคโนโลยีมารองรับการปฏิบัติงาน พร้อมกับการปรับนโยบาย กลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาวให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั้งในด้านความแข็งแกร่งและความยั่งยืน

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2566 กลุ่ม UAC รับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจ เพิ่มขึ้น 309.03 ล้านบาท หรือ 24.13% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากรายได้ในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และรายได้อื่น ๆ และยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน (Operation Excellence) ทำให้มีกำไรสุทธิ และ EBITDA เป็นเงิน 278.03 ล้านบาท และ 448.54 ล้านบาท ตามลำดับ หรือ เพิ่มขึ้น 252.55% และ 84.94% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 3/2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 80.11 ล้านบาท

นอกจากการมุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจแล้ว กลุ่ม UAC ยังคงให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เคารพสิทธิมนุษยชน และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ พร้อมกับการดำเนินงานควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) โดยบริษัทยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ในทุกมิติ ดังนี้

ด้านสิ่งแวดล้อม (E-Environment) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งตระหนักถึงความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ และในปีนี้ได้มีการจัดฉลองชั่วโมงการทำงาน 1,000,000 ชั่วโมงโดยไม่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน สะท้อนให้เห็นว่า UAC เป็นองค์กรแห่งความปลอดภัย

ด้านสังคม (S-Social) เดินหน้าช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา ประเพณีของสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ด้านพนักงานมีการส่งเสริมกิจกรรมการทำงานแบบเป็นทีมโดยเฉพาะกิจกรรม Team Building เพื่อให้เกิดองค์กรแห่งความสุขและเน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่พนักงานทุกระดับ เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในการวางแผนและดำเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ

ด้านบรรษัทภิบาล (G-Governance) ให้ความสำคัญต่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งถือเป็นรากฐานในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นสถานการณ์วิกฤตที่ทั่วโลกให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่ม UAC มุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนนำไปสู่องค์กรการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero)

จากความมุ่งมั่นและตระหนักถึงความรับผิดชอบในทุกด้าน ส่งผลให้บริษัทได้รับผลการประเมิน Corporate Government Report (CGR) ในระดับ “ดีเลิศ” เป็นปีที่ 6 รางวัลประกาศเกียรติคุณ Sustainability Disclosure Recognition ด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนปี 2566 จากสถาบันไทยพัฒน์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และยังได้รับรางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2023 จาก Deloitte Thailand ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จด้านการบริหารจัดการ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมรวมถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ท้ายนี้ คณะกรรมการบริษัท และฝ่ายบริหาร ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมถึง ผู้บริหาร และพนักงานที่ร่วมสนับสนุน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องมาตลอด 28 ปี บริษัทขอให้คำมั่นว่าคณะกรรมการ และฝ่ายบริหารทุกท่าน จะดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมภิบาล รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมองหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้มั่นคง เติบโต ภายใต้แนวคิด ธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างยั่งยืนต่อไป