ทำความรู้จัก ก๊าซธรรมชาติ แต่ละชนิดใช้ทำอะไร

Knowledge Sharing

ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานฟอสซิลที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวันและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ตาม การตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานที่ยั่งยืน ทำให้ผู้คนหันมาสนใจพลังงานหมุนเวียน พลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือกมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงานฟอสซิล

ก๊าซธรรมชาติคืออะไร?

ก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนผสมของก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติใต้พื้นดิน มีองค์ประกอบหลักคือก๊าซมีเทน และยังมีก๊าซอื่นๆ เช่น อีเทน โพรเพน และบิวเทนปะปนอยู่

ความสำคัญของก๊าซธรรมชาติในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม

ก๊าซธรรมชาติถูกนำมาใช้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งในครัวเรือน อุตสาหกรรม และภาคขนส่ง เช่น การหุงต้ม การผลิตไฟฟ้า การผลิตปิโตรเคมี และการเป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์

ชนิดของก๊าซธรรมชาติและคุณสมบัติ

ก๊าซธรรมชาติประกอบด้วยก๊าซหลายชนิดที่มีคุณสมบัติต่างกัน ซึ่งแต่ละชนิดมีบทบาทสำคัญในการใช้งานด้านพลังงานและอุตสาหกรรม เรามาทำความรู้จักกับก๊าซแต่ละประเภทพร้อมคุณสมบัติเด่นของมัน

1. ก๊าซมีเทน (Methane)

ก๊าซมีเทนเป็นองค์ประกอบหลักของก๊าซธรรมชาติ โดยเป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และติดไฟได้ง่าย เมื่อเผาไหม้จะให้พลังงานสูงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่ต่ำกว่าน้ำมันและถ่านหิน ทำให้เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดกว่า เหมาะสำหรับใช้ผลิตไฟฟ้าและให้พลังงานในภาคครัวเรือน

2. ก๊าซอีเทน (Ethane)

ก๊าซอีเทนเป็นก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่มีจุดเดือดต่ำและมีคุณสมบัติติดไฟได้ดี แต่ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแทนการใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตเอทิลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของพลาสติกและผลิตภัณฑ์เคมีหลายชนิด

3. ก๊าซโพรเพน (Propane)

ก๊าซโพรเพนเป็นก๊าซที่อัดเป็นของเหลวได้ง่ายเมื่ออยู่ภายใต้ความดันสูง ทำให้สามารถจัดเก็บและขนส่งได้สะดวก คุณสมบัติหลักของมันคือให้พลังงานสูงและมีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ จึงถูกใช้เป็นส่วนผสมของก๊าซหุงต้ม (LPG) และเป็นเชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรม

4. ก๊าซบิวเทน (Butane)

ก๊าซบิวเทนเป็นก๊าซที่สามารถกลั่นเป็นของเหลวได้ที่อุณหภูมิต่ำ มีคุณสมบัติไวไฟและสามารถอัดเป็นของเหลวได้ง่าย จึงนิยมใช้เป็นส่วนผสมของก๊าซหุงต้มร่วมกับโพรเพน นอกจากนี้ ยังพบการใช้งานในไฟแช็ก เตาแคมป์ปิ้ง และอุตสาหกรรมที่ต้องการเชื้อเพลิงพกพา

5. ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG - Liquefied Natural Gas)

ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เกิดจากกระบวนการทำให้ก๊าซธรรมชาติเย็นลงจนกลายเป็นของเหลวที่อุณหภูมิประมาณ -162 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถจัดเก็บและขนส่งได้ในปริมาณมากขึ้น LNG ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาดกว่าน้ำมันและถ่านหิน โดยใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า และระบบขนส่งขนาดใหญ่ เช่น เรือเดินสมุทรและรถบรรทุก

การใช้งานก๊าซธรรมชาติในภาคส่วนต่างๆ

ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานที่มีบทบาทสำคัญในหลายภาคส่วน ตั้งแต่การใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง โดยมีการนำไปใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามลักษณะของแต่ละภาคส่วน

1. ภาคครัวเรือน

ก๊าซธรรมชาติถูกนำมาใช้ในครัวเรือนเป็นหลักในรูปของก๊าซหุงต้ม (LPG) สำหรับประกอบอาหาร และใช้ในเครื่องทำน้ำอุ่นเพื่อให้ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน

2. ภาคอุตสาหกรรม

ในภาคอุตสาหกรรม ก๊าซธรรมชาติถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า และยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตทางปิโตรเคมี เช่น การผลิตพลาสติก ปุ๋ย และสารเคมีต่างๆ

3. ภาคขนส่ง

ก๊าซธรรมชาติถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะในรูปแบบของ NGV (Natural Gas Vehicle) และ LNG (Liquefied Natural Gas) ซึ่งช่วยลดการปล่อยมลพิษและเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาดกว่าน้ำมันดีเซลและเบนซิน

NGV ก๊าซธรรมชาติ พลังงานทางเลือก

การใช้งานก๊าซธรรมชาติในแต่ละภาคส่วนมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากจะช่วยลดต้นทุนพลังงานแล้วยังเป็นทางเลือกที่สะอาดกว่าพลังงานฟอสซิลชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับการใช้ก๊าซธรรมชาติจะช่วยให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมาตรการลดผลกระทบ

การใช้ก๊าซธรรมชาติยังคงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่มีผลกระทบน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่นๆ มาตรการลดผลกระทบ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้เทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) และการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ก๊าซธรรมชาติ

  • ข้อดี: สะอาดกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่นๆ มีปริมาณสำรองมาก และมีการใช้งานที่หลากหลาย
  • ข้อเสีย: ยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมีข้อจำกัดด้านการขนส่ง

แนวทางการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
  • ใช้เทคโนโลยี CCS
  • ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

อนาคตของก๊าซธรรมชาติและพลังงานทางเลือก

  • แนวโน้มการใช้งานก๊าซธรรมชาติในอนาคต: คาดว่าจะยังคงมีความสำคัญ แต่จะมีการใช้ร่วมกับพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น
  • การพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อความยั่งยืน: พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวภาพ เป็นต้น

ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ แต่การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC Global เราประกอบธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด โดยมีการดำเนินงานด้าน REC ซึ่งมาจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เราหวังเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการส่งเสริมการรักษาสภาพแวดล้อมเพื่อโลกของเรา UAC ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืนในสามมิติเพื่อสร้างสมดุลทั้งใน ด้านเศรษฐกิจด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือกของ UAC ได้ที่นี่ 

UAC Global For Sustainable Future ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน