การสำรวจปิโตรเลียมมีความสำคัญอย่างไร? แหล่งปิโตรเลียมในไทยมีที่ไหนบ้าง

ก่อนที่เราจะนำปิโตรเลียมมาเพื่อใช้ประโยชน์ แน่นอนว่าเราต้องทำการสำรวจปิโตรเลียมเสียก่อน ในประเทศไทยเป็นประเทศที่ยังคงพึ่งพาแหล่งพลังงานจากปิโตรเลียมอย่างมาก การค้นหาและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน แล้วทำไมต้องมีการสำรวจปิโตรเลียม พร้อมตัวอย่างแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง บทความนี้ มีคำตอบ

ปิโตรเลียมคืออะไร มีกี่ประเภท

ปิโตรเลียม (Petroleum) คือแหล่งพลังงานหลักที่ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และ ก๊าซธรรมชาติ เกิดจากการสะสมของซากพืชและสัตว์ที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินหรือใต้ทะเลเป็นเวลาหลายล้านปี และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายใต้ความดันและความร้อนสูง ทำให้กลายเป็นของเหลวหรือก๊าซที่มีคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบหลัก

ประเภทของปิโตรเลียม มีอะไรบ้าง

สำหรับปิโตรเลียม แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. น้ำมันดิบ (Crude Oil)

เป็นของเหลวหนืดข้น มีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นเฉพาะตัว น้ำมันดิบแต่ละแหล่งจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เป็นส่วนประกอบหลัก

2. ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)

เป็นปิโตรเลียมในสถานะก๊าซ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยก๊าซมีเทน (CH₄) นอกจากนี้ยังมีก๊าซอื่น ๆ ปะปนอยู่ เช่น เอเทน โพรเพน และบิวเทน ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้โดยตรง หรือแยกก๊าซแต่ละชนิดออกมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ทำไมการสำรวจปิโตรเลียมถึงสำคัญ

การสำรวจปิโตรเลียมนั้นมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากปิโตรเลียมเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีบทบาทหลากหลายในชีวิตประจำวันของเรา มาดูกันว่าเหตุผลที่การสำรวจปิโตรเลียมมีความสำคัญนั้นมีอะไรบ้าง

1. ความมั่นคงทางพลังงาน

การสำรวจปิโตรเลียมช่วยให้ประเทศสามารถค้นพบแหล่งพลังงานใหม่ ๆ ที่สามารถผลิตและใช้ได้ภายในประเทศ ซึ่งลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ การมีแหล่งพลังงานที่มั่นคงและเพียงพอช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาพลังงานในตลาดโลก

2. การพัฒนาทางเศรษฐกิจ

การค้นพบแหล่งปิโตรเลียมใหม่มีศักยภาพในการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศจากการขายปิโตรเลียมทั้งในรูปแบบน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ การมีรายได้จากการส่งออกปิโตรเลียมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว

3. การสร้างงานและการลงทุน

อุตสาหกรรมปิโตรเลียมสร้างงานทั้งในภาคการสำรวจ การขุดเจาะ การผลิต การขนส่ง และการกลั่น รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การก่อสร้างและการบริการ การลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมยังส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่สำคัญสำหรับชุมชน

4. การสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ

ปิโตรเลียมเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสารเคมี พลาสติก ยางสังเคราะห์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้าง การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมการเกษตร การสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมช่วยให้มีวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตและการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่น ๆ

5. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

การสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมมักต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ การขุดเจาะในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย และการจัดการกับความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมอื่น ๆ

แหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง

ต้องบอกว่าแหล่งปิโตรเลียมไม่เพียงแต่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ แต่ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและสร้างงานให้กับประชาชน การค้นพบและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศได้ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและลดการพึ่งพิงจากการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยมีแหล่งปิโตรเลียมหลายแห่ง อ้างอิงข้อมูลจากกรมเชื้อเพลิงฯ ได้นำตัวอย่างแปลงสำรวจปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเล ดังนี้

แปลงสำรวจบนบก

มีพื้นที่อยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 23 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และ ผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 24,926 บาร์เรล/วัน ซึ่งมีแหล่งผลิต ได้แก่ แหล่งสิริกิติ์ แหล่งหนองมะขาม แหล่งหนองตูม แหล่งประดู่เฒ่า แหล่งปรือกระเทียม แหล่งเสาเถียร แหล่งทับแรต และแหล่งวัดแตน

แปลงสำรวจในทะเล

• แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B8/32 และ 9A ผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 320 บาร์เรล/วัน และ ผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 3.6 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งมีแหล่งผลิต ได้แก่ แหล่งเบญจมาศ แหล่งชบา แหล่งจามจุรี แหล่งมะลิวัลย์ และแหล่งราชพฤกษ์
• แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 ผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 7,605 บาร์เรล/วัน และ ผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 335 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวเฉลี่ย 10,676 บาร์เรล/วัน ซึ่งมีแหล่งผลิต ได้แก่ แหล่งเอราวัณ แหล่งปลาทอง แหล่งสตูล และแหล่งฟูนาน

นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยหลายแห่งที่มีศักยภาพในการสนับสนุนเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศ ตั้งแต่แหล่งน้ำมันดิบบนบกจนถึงแหล่งก๊าซธรรมชาติในทะเล ซึ่งการสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก แต่ยังสร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมพลังงานอีกด้วย

ความท้าทายในการสำรวจปิโตรเลียม แนวโน้มอนาคตของการสำรวจปิโตรเลียมในไทย เป็นอย่างไร

การสำรวจปิโตรเลียมในประเทศไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายหลากหลายด้านที่ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นทุนต่ำ ความผันผวนของราคาพลังงานทำให้การลงทุนในภาคปิโตรเลียมมีความเสี่ยงมากขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม

ความท้าทายดังกล่าว ทำให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้องมีการปรับตัวด้วยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการขยะอย่างถูกวิธี และการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังการผลิต หรือแม้แต่การพัฒนาพลังงานทดแทน แม้ว่าปิโตรเลียมยังคงมีความสำคัญ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญในการลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล

บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC Global เราคือผู้นำด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายสารเคมี และอุปกรณ์ ตลอดจนระบบเชิงนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อกระบวนการในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ UAC ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด ส่งมอบความยั่งยืนสู่สิ่งแวดล้อมและชุมชน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของ UAC ได้ที่นี่

UAC Global For Sustainable Future ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน